● p o p u p '

25 กุมภาพันธ์ 2553

การเมือง //





แก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หวังรุกฆาตทางการเมือง

การมีประชาธิปไตย ไม่ได้แปลว่า มีสิทธิและเสรีภาพที่จะทำอะไรได้ทุกเรื่องอย่างไร้ขอบเขต นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และสังคมวิทยา ย่อมรู้ดี








การเป็นประชาธิปไตยย่อมต้องอยู่ในกรอบของการเคารพสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่ละเมิดผู้อื่น แต่นักวิชาการกลุ่มหนึ่งบอกว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นกฎหมายที่ใช้เอาผิดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยเบี่ยงประเด็นการขัดแย้งในทางการเมืองให้เป็น การสนับสนุนเจ้ากับพวกวิจารณ์เจ้า เบี่ยงประเด็นจากการขับไล่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่กระทำการโกงกินและเหลิงอำนาจ ไปเป็นการขัดแย้งระหว่างองคมนตรีกับรัฐบาล เพื่อกระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกล่าวหาองคมนตรีว่าอยู่เบื้องหลังของการชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีโดยคนเสื้อเหลือง ที่ประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์



ทำไม? คนเสื้อเหลืองจึงประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่ช่วงนั้นมีเว็บไทยบางเว็บที่ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ก่อตั้ง รวมไปถึงเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้ลงเรื่องราวป้ายสิ่งสกปรกแก่พระราชวงศ์เป็นระยะ

ทำไม? คนเสื้อเหลืองจึงต้องขับไล่นายกรัฐมนตรี ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร (ขอถอดยศตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป) ซึ่งคนไทยหลายภาคส่วน ต่างรู้ว่ามีการปล้นชาติกินเมือง ต่างรู้สึกอึดอัดกับความเหลิงอำนาจ จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย ก็จะดูแลจังหวัดนั้นก่อน (แล้วพูดได้อย่างไรว่า ไทยรักไทย..โกหกชัดๆ)



ทำไม? นายใจ นายจอน ซึ่งเป็นคนตระกูลอึ้ง จึงสนับสนุนนายทักษิณ ทั้งที่รู้เห็นอยู่ว่าเป็นคนคดโกง ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ทั้งต้อน ส ส.เข้าคอก สลายพรรคเล็กๆ เรียกหากันเป็นนายใหญ่นายหญิง ประเด็นนี้ไม่ใช่วิสัยพรรคการเมืองที่ประกาศตัวว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ นายใจ นายจอน ก็ยังสนับสนุน









มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนก็ไม่เคยออกมาคัดค้านการบริหารประเทศของรัฐบาลแบบเผด็จการของนายทักษิณและภรรยา เมื่อภาระกิจปล้นชาติโกงแผ่นดินเกิดขึ้น ก็ไร้เงานักวิชาการผู้คัดค้านกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยิ่งนายทักษิณมีพฤติกรรมกำเริบเสิบสานตีตนเสมอเจ้า คนเสื้อเหลืองก็ยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขณะเดียวกันเรื่องราวการป้ายสิ่งสกปรกแก่พระราชวงศ์ก็ปรากฏแพร่หลายมากขึ้น แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ กับกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่ว่ากระทรวงไอซีทีไม่รู้ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลนายทักษิณไม่รู้



การจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง มีการจัดระบบสมาชิก จัดกลุ่มคุมจำนวนคน จ่ายค่าหัว ตามสาย ตามกลุ่ม จัดชุมนุมก่อความรุนแรงอ้างอุดมการณ์รักประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ดูจะขัดแย้งกับภาพของนักวิชาการอย่าง นายใจ นายจอน แม้จะเคยมีถ้อยแถลงจากนายจอนว่าโดนป้ายสีเรียกร้องของความเป็นธรรม แต่สิ่งที่แสดงออกมาวันนี้มันชัดเจนว่าใครป้ายสีใคร



ทั้งนายใจ นายจักรภพ กลุ่มมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้กระทำการสอดคล้องกัน คำแถลงการณ์แดงสยามบ่งบอกความสัมพันธ์ในอดีตของ นายทักษิณ นายใจ นายจอน นายจักรภพและพวก เว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เว็บไซต์สาธารณรัฐสยาม ทุกกระบวนการเป็นการดำเนินงานเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพื่อนำไปสู่การปกครองที่อ้างว่าสาธารณรัฐ แต่ผู้ฝักใฝ่มาร์กซิสม์ กลับอ้างความเสมอภาค โดยเบื้องลึก คือ คนไทยส่วนใหญ่ แม้คนเสื้อแดงที่ถูกหลอกให้ออกมาเคลื่อนไหวเวลานี้ก็ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับลัทธิเหล่านี้ นี่คือจุดบอดในความมั่นคงของชาติ และเป็นช่องว่างให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้อำนาจรัฐ



ความอาฆาตแค้นที่เข้าใจว่าพระมหากษัตริย์อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารสมัยที่บิดาของตนเป็นนักวิชาการที่ต้องลี้ภัย ความหลงตัวเองของนักวิชาการด้านสังคมวิทยา ที่อ่านหนังสือมามากมาย ซ้ำได้รับคำชื่นชมยกย่องจากแวดวงนักวิชาการ ยิ่งทำให้สำคัญผิดคิดว่าตนสามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้ จึงคิดการอาศัยนักการเมืองที่ชื่อทักษิณเป็นสะพาน แต่เมื่อทักษิณเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางและไร้คุณค่า จึงเกรงว่าไม่เร็วก็ช้าจะถูกเช็คบิล สู้ออกมาเปิดหน้าตักเล่นกันตรงๆ คงดีกว่า









วันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการทำลายประเทศจากคนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือผู้เสียผลประโยชน์ทางอำนาจการปกครอง อีกกลุ่มคือผู้สูญเสียกำลังสนับสนุนที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยความอาฆาตต่อพระมหากษัตริย์ เว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เปิดตัวออกมาต่างเกี่ยวพันกับคนสองกลุ่มนี้ทั้งสิ้น



คนไทยที่รักทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะสวมเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง ตรึกตรอง ทบทวนกันใหม่เถิด พระเจ้าอยู่หัวของเราทรงดำเนินพระราชกรณียกิจพัฒนาประชาชน มาตั้งแต่เรายังไม่เกิด พัฒนาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน พระองค์ท่านไม่เคยเสวยสุขในพระราชสมบัติ แต่กลับทรงดำรงอยู่ด้วยความลำบากพระวรกาย เสด็จพระดำเนินไปในท้องถิ่นทุรกันดาร ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่นานาประเทศให้ความเคารพ พระราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงกำลังเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท



เทียบกับผู้ที่พยายามกล่าวอ้างให้ร้ายแก่พระองค์ท่าน เขาทำคุณประโยชน์อะไรแก่ประเทศชาติและประชาชนบ้าง นอกจากการปลุกปั่นให้นักศึกษาส่วนหนึ่ง ประชาชนส่วนหนึ่ง ฝักใฝ่ในลัทธิที่เขาอ้างว่าคือ ประชาธิปไตย และไม่มีประเทศเผด็จการประเทศใดที่จะประกาศชื่อว่าเป็น "ประเทศเผด็จการ" แต่ประเทศที่ปกครองโดยระบอบเผด็จการจะมีชื่อ "สาธารณรัฐประชาธิปไตย" หาก "สาธารณรัฐสยาม" เกิดขึ้นจริง ประชาชนไทยก็จะตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการในทันที



การอ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตย จึงต้องแก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพื่อต้องการให้วิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ได้ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น กลุ่มผู้สนับสนุนนายทักษิณเป็นฝ่ายกระทำการจาบจ้วงล่วงละเมิดต่อเบื้องสูง โดยผ่านการกล่าวหาองคมนตรี และมีนายจักรภพเป็นหลักเพราะมีความสามารถในการพูดให้รู้นัยยะว่าจะกระทบพระองค์ท่านแต่กลับเอาผิดคนๆนี้ได้ยาก



แต่แล้วก็ถึงคราวซวย เมื่อไม่สามารถคุมพวกเดียวกันได้ กรณีคดี "ดา ตอปิโด" หญิงปากหยาบช้าผู้รับข้อมูลสกปรกมากล่าวร้ายเบื้องสูง โดยคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่พูดออกมาหมดในสิ่งที่ตนได้รับจากกลุ่มผู้ชักนำซึ่งสนับสนุนนายทักษิณ จึงถูกจับกุมดำเนินคดี การกล่าวร้ายแสดงวาจาดูหมิ่นเบื้องสูง หากไม่มีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาจัดการแล้ว "ดา ตอปิโด" อาจถูกประชาทัณฑ์










ปฏิบัติการดูหมิ่นจาบจ้วงให้ร้ายพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ เกิดขึ้นมากในช่วงที่นายทักษิณเหลิงอำนาจและช่วงใกล้สูญเสียอำนาจ ยิ่งเวลานี้ยิ่งมีมากกว่าเดิมเพราะมีการประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าใครเป็นใครในขบวนการนี้ การคัดค้านเสนอแก้กฎหมายของนักวิชาการจึงเป็นการคิดว่ารุกฆาต หากรัฐไม่แก้ แสดงว่าจะใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้าม และหากยอมแก้ พวกตนจะพ้นผิดและสามารถให้ร้ายพระราชวงศ์ได้ต่อไปโดยเสรี



แต่นักวิชาการเหล่านี้ลืมไปว่า คำว่า เสรีภาพ นั้นแปลว่า การไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เสรีภาพไม่ใช่การจะกล่าวร้ายป้ายสีใครก็ได้ เหตุที่บุคคลต่างๆไม่กี่คนที่ต้องถูกดำเนินคดีนั้น มาจากการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคล




เป็นการละเมิดสิทธิด้วยความเท็จ ด้วยการกระทำให้เกิดการดูหมิ่นดูแคลนต่อบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันกษัตริย์ การกระทำต่าง ๆ เป็นไปในเจตนามุ่งร้ายต่อประเทศไทย นักวิชาการต่างชาติก็ยิ่งไม่สมควรนำมาเกี่ยวข้อง นี่เป็นเจตนาชัดเจนว่าต้องการให้รากหญ้าที่ไม่เข้าใจ ยิ่งเกิดความเข้าใจผิดให้คิดไปว่านานาประเทศเขาคิดอย่างนั้น



การดำเนินคดีต้องดำเนินต่อไป กฎหมายต้องมีต่อไป ที่นักวิชาการคัดค้านนั้นไม่เป็นเหตุผล เพราะนักวิชาการที่คัดค้านก็กลุ่มก๊วนเดียวกับผู้ที่กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยหวังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ และการดำเนินคดีต่อผู้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นมิใช่เครื่องมือที่รัฐจะจัดการฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการดำเนินการต่อผู้กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ



การมีกฎหมายนี้เพื่อรักษาสถานภาพองค์พระประมุขมิให้อยู่ในฐานะที่ใครจะมาดูหมิ่นดูแคลนให้ร้ายได้ เพราะฐานะการเป็นองค์พระประมุขของประเทศ เป็นศักดิ์ศรี เป็นเกียรติยศของชาติ ประเทศจึงต้องมีกฎหมายนี้เพื่อรักษาเกียรติยศของประเทศ มิใช่มีไว้เพื่อเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้าม



วันนี้ เราคนไทย เรานิยมไทย เราไม่จำเป็นต้องเดินตามฝรั่ง เราจะกลับสู่รากเหง้าของความเป็นไทยที่มีวิชาการตะวันตกและอารยธรรมตะวันออก อารยธรรมไทย ก้าวเดินอย่างทัดเทียมต่างชาติ แต่ไม่ใช่การบูชาต่างชาติ



ประเทศไทยจะมีหน้าอยู่ในประชาคมโลกได้อย่างไร...?

หากกระทั่งองค์พระประมุขของประเทศยังถูกกระทำการหยาบช้าแปดเปื้อนได้ คนไทยจะมีหน้าอยู่ได้อย่างไรหาก ไม่สามารถปกป้ององค์พระประมุขของตนได้